ไฟเตือนน้ำมันโชว์ หมายถึงอะไร
เมื่อไฟรูปหัวจ่ายน้ำมันสว่างขึ้น หมายความว่า น้ำมันในถัง เหลืออยู่ประมาณ 8-11 ลิตร (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ) หากรถมีอัตราสิ้นเปลือง 10 กม./ลิตร ก็จะสามารถขับต่อไปได้ 80-110 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ระยะทางที่วิ่งได้จริงอาจลดลงหากเจอสภาพการจราจรติดขัด หรือมีการขับขี่ที่ใช้น้ำมันมากกว่าปกติ
โดยเฉลี่ยแล้ว เมื่อไฟเตือนสีเหลืองกะพริบ รถสามารถขับต่อได้อีก 40-50 กิโลเมตร ก่อนน้ำมันหมดถัง อย่างไรก็ตาม การใช้เกียร์สูง รอบเครื่องยนต์สูง หรือขับผ่านทางลาดชันอาจลดระยะทางลงไปอีก
วิธีประคองน้ำมันหากหาปั๊มน้ำมันไม่ทัน
- ลดการใช้อุปกรณ์ที่สิ้นเปลืองพลังงาน เช่น ปิดแอร์ ลดการใช้ไฟฟ้าในรถ
- ขับขี่ที่ความเร็วคงที่ 60-80 กม./ชม. เพื่อให้ใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
- หลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องแรง ๆ หรือเบรกกะทันหัน
ขับจนน้ำมันหมด มีผลเสียต่อรถอย่างไร
หากปล่อยให้น้ำมันใกล้หมดบ่อย ๆ หรือเติมเพียงทีละน้อย อาจทำให้ ปั๊มติ๊ก ซึ่งเป็นอุปกรณ์ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหาย เนื่องจากตัวปั๊มติ๊กต้องใช้น้ำมันเป็นตัวระบายความร้อน เมื่อปั๊มทำงานในถังที่น้ำมันเหลือน้อย อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมและเสียหายได้
ข้อแนะนำ: ควรเติมน้ำมันเมื่อเหลือ ¼ ของถัง เพื่อลดความเสี่ยงที่ปั๊มติ๊กจะเสียหาย และช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
พฤติกรรมที่ทำให้น้ำมันหมดไวโดยไม่รู้ตัว
- จอดรถติดเครื่องทิ้งไว้นานเกิน 30 นาที ขณะเปิดแอร์
- ขับรถเร็วเกิน 90 กม./ชม. หรือเร่งเครื่องแรงเกินไป
- บรรทุกของหนักโดยไม่จำเป็น
- ลมยางอ่อน ทำให้มีแรงเสียดทานมากขึ้นและใช้พลังงานมากขึ้น
เติมน้ำมันอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
- เติมน้ำมันเวลาไหนก็ได้ – ปริมาณน้ำมันที่ได้รับเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าหรือกลางคืน เนื่องจากปั๊มน้ำมันมีการควบคุมอุณหภูมิ
- เติมน้ำมันให้เกิน ¾ ของถัง และเติมใหม่เมื่อเหลือ ¼ – ช่วยให้ปั๊มติ๊กทำงานได้ดีขึ้น ลดความร้อนสะสม และยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
การเติมน้ำมันอย่างถูกต้องและการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงช่วยให้ประหยัดค่าน้ำมัน แต่ยังช่วยรักษาสมรรถนะเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น